ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
Thai Maritime Enforcement Command Center
ขนาด
ภาษา
ข่าวสาร
/
ข่าวประชาสัมพันธ์
ศรชล. ประสบความสำเร็จจัดประชุม ACF2025 ยกระดับความร่วมมือทางทะเลในภูมิภาค

ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมหน่วยยามฝั่งอาเซียน ปี พ.ศ.2568 (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) อย่างยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จ ในระหว่าง 24 มิถุนายน 2568 ถึง 27 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมฮิลตัน พัทยา อ.บางละมุง จว.ชลบุรี การประชุมครั้งนี้รวบรวมผู้แทนระดับสูงจากหน่วยยามฝั่งและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศคู่เจรจา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการความท้าทายทางทะเลที่ซับซ้อนในภูมิภาค


พิธีเปิดการประชุมหน่วยยามฝั่งอาเซียน ปี พ.ศ.2568 (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) ในวันที่ 25 มิถุนายน 2568 นั้น ได้รับเกียรติจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี/ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ผอ.ศรชล.) เป็นประธาน พร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (นปท.) โดยมีพลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ/รอง ผอ.ศรชล. และ พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ/เลขาธิการ ให้การต้อนรับ โดย ผอ.ศรชล. ได้เน้นย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของหน่วยยามฝั่งในการพิทักษ์อธิปไตยและรักษาความปลอดภัยทางทะเล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจสีน้ำเงินในภูมิภาค และให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงภัยคุกคามที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติด การทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตของประชาชน 


เข้มข้นกับการปฏิบัติ: สาธิตการฝึกค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉิน หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของการประชุม ACF2025 คือการที่ผู้เข้าร่วมได้รับชมการฝึกปฏิบัติการจริง "การฝึกค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานประสบภัยในทะเล และการแพทย์ฉุกเฉิน 2568" โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้จำลองสถานการณ์อากาศยานประสบเหตุฉุกเฉินและตกในทะเล เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ ในการค้นหา กู้ภัย และการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัย ผู้เข้าร่วมได้เห็นถึงความร่วมมือของกำลังพลจากหน่วยงานต่าง ๆ การฝึกนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสื่อสารที่แม่นยำ การประเมินสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างทันท่วงที และการส่งต่อผู้ป่วยไปยังสถานพยาบาลอย่างปลอดภัย ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบภัย การสาธิตครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ ศรชล. และหน่วยงานพันธมิตรแต่ยังเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดการสถานการณ์วิกฤตทางทะเลให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนด้วย


ปิดฉากการประชุม: กำหนดอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน ในวันที่27 มิถุนายน 256 การประชุม บรรยากาศเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำพาข้อตกลงและข้อสรุปที่ได้จากการหารือไปสู่การปฏิบัติจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรลุข้อตกลงในการพัฒนา กรอบความร่วมมือเชิงปฏิบัติการสำหรับหน่วยยามฝั่งอาเซียน ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ชัดเจนในการประสานงานและปฏิบัติการร่วมกันอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น


ผลลัพธ์จากการประชุม ACF2025 ในครั้งนี้จะเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับความมั่นคงทางทะเลและความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อสร้างทะเลที่ปลอดภัย มีความอุดมสมบูรณ์ และยั่งยืนสำหรับคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต


ท้ายนี้ การประชุมหน่วยยามฝั่งอาเซียน ปี พ.ศ.2568 (ASEAN Coast Guard Forum 2025: ACF 2025) ที่ ศรชล. เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ จึงมิได้เป็นเพียงการรวมตัวเพื่อหารือ หากแต่เป็น ก้าวสำคัญที่ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านความร่วมมือทางทะเลในระดับอาเซียนและระดับโลก และเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันของประชาคมอาเซียนในการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลให้คงอยู่ตลอดไป