
ในวันที่ 8 ก.พ.68 เวลา 09:30 น. พลเรือโทสุวัจ ดอนสกุล ผอ.ศรล.ภาค 3/ผบ.ทรภ.3 สั่งการให้ ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับ ทรภ.3 และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จับกุมเรือต่างชาติรุกล้ำราชอาณาจักรไทย สืบเนื่องจากศศท.จว.พง.ฯ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายเรือประมงในพื้นที่ จว.พังงา โดย นายสิงห์ เคนหาญ (ไต่ริน) ผู้ควบคุมเรือประมง ป.พิชัยนาวา 32 ว่าได้ตรวจพบเรือประมงไม่ทราบสัญชาติลักษณะเรือไม่เคยพบเห็นในพื้นที่ ระยะ 5.52 ไมล์ จากปลายแหลมเกาะรา ต.เกาะ พระพระทอง อ.คุระบุรี จว.พังงา
ศศท.จว.พง.ฯ ได้ประสานการปฏิบัติกับ ศูนย์ PIPO คุระบุรี และเครือข่ายเรือประมงในพื้นที่ ในการติดตามเป้าเรือลำดังกล่าว ตามแหล่งข่าวที่ได้รับแจ้ง เพื่อติดตามเป้าเรือต้องสงสัย
เวลา 10.45 น. ศคท.จว.พังงา ได้ส่งเรือตรวจการณ์ความเร็วสูงบริเวณชายฝั่ง ศรชล.4015 พร้อม จนท.ฯ ออกเรือตรวจสอบเป้าเรือต้องสงสัย ตามพิกัดที่ได้รับแจ้ง โดยบูรณาการร่วมกับเรือตรวจ
ประมงทะเล 206 เรือ ต.271 เรือ ต.274 รวมทั้งประสานการปฏิบัติกับ เครื่องบินตรวจการณ์ชี้เป้าแบบที่ 1 (บ.ตช.1 ) บินลาตตระเวน และแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้าเรือประมงต้องสงสัย
เวลา 14.53 น. เรือ ต.274 ได้ตรวจพบเรือประมงไม่ทราบสัญชาติดังกล่าว บริเวณ 8.7 ไมล์ จากเกาะค้างคาว จว.ระนอง โดยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเป้ากับเรือ ศรชล.4015 ได้ควบคุมเรือประมงต้องสงสัยหัวเรือเขียนเป็นภาษาเมียนมา ตัวหนังสือสีแดง เข้าเทียบกราบขวาของเรือ ต.274 รวมทั้งได้ควบคุมเรือประมงพื้นที่บ้าน ในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีพฤติกรรมต้องสงสงสัญชาติเมือนมา ชื่อเรือ TRC 556 NGWE TOE HLAING 1 เพิ่มเติมอีก 1 ลำ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ประสานความมั่นคง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นเรือ ต.274 ตรวจพบว่า เรือประมงต้องสงสัยไม่แสดงธงสัญชาติ ในเรือมีลูกเรือสัญชาติเมียนมา จำนวน 7 คน มีบัตรประจำตัวสีชมพู เป็นภาษาเมือนมา จากการสอบข้อเท็จจริงให้การว่า ได้นำเรือประมงลำดังกล่าว ออกเรือมาจากเมืองเมาะลำใย ประเทศเมียนมา ในวันที่ 15 ม.ค.68 เพื่อนำยางพาราแผ่นไปส่งยังเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย โดยได้เดินทางกลับจากปีนัง ประเทศมาเชีย ในวันที่ 27 ม.ค.68 และได้เดินทางเข้ามายังน่านน้ำไทยจนถึงตำบลที่ตามที่ตรววจพบเป้าเรือต้องสงสัย จากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ ตรวจพบในระวางไม่มีสินค้า สภาพระวางไม่มีกลิ่นยางพาราแผ่น ระวางอยู่ในสภาพสะอาด มีลูกเรือทั้งสิ้น 7 คน สัญชาติเมียนมา ไม่มีเอกสารประจำเรือ และใบแสดงการส่งสินค้ามาสำแดงต่อ จนท. ในขณะตรวจสอบ รวมทั้งแล่นเรือในเขตน่านน้ำไทยโดยไม่ชักธงแสดงสัญชาติ
ดำเนินตรวจเรือประมงพื้นบ้าน ชื่อเรือ TRC 556 NGWE TOE HLAING 1 มีลูกเรือ 6 คน เป็นคนสองสัญชาติไทย/เมือนมา จำนวน 1 คน ชื่อ Mr. Tun Tun Linn อายุ 59 ปี และสัญชาติเมียนมา จำนวน 5 คน โดยภายในเรือตรวจพบถังน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซล ขนาด 200 ลิตร จำนวน 8 ถัง (1,600 ลิตร) พร้อมน้ำดื่มและเสบียงอาหาร ท้ายเรือมีเครื่องยนต์ติดท้าย จำนวน 3 เครื่อง พร้อมแกลลอนน้ำมัน 30 ลิตร จำนวน 5 แกลลอน ซึ่งจากการตรวจสอบลูกเรือได้ใต้ให้การว่าได้ถูกว่าจ้างมาจากเจ้าของเรือทั้ง 2 ลำ ชื่ออากูสัญชาติเมียนมา เป็นผู้ว่าจ้างให้เรือประมงพื้นบ้าน นำน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมเสบียงอาหารมาสงให้กับเรือประมงต้องสงสัย โดยได้เดินทางออกจาก ก.สอง ในวันที่ 7 ก.พ.68 เวลา 10.00 น.
เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นเรือ ต.274 ได้ดำเนินการจับกุม รวมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาในชั้นจับกุม ในข้อหาประกอบด้วย ไม่มีเอกสารคนประจำเรือ และเอกสารใบนำส่งสินค้ายางพาราแผ่นมาสำแดงต่อเจ้าหน้าที่ นำเรือเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ชักธงสัญชาติ ลักลอบน้ำน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร และนำเรือรุกล้ำเข้ามาในราชอาญาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำหรับการปฏิบัติต่อไปได้ประสาน เรือ ต.274 และเรือ ต.271 ดำเนินการควบคุมเรือต้องสงสัยทั้ง 2 ลำ พร้อมของกลางโดยควบคุมเรือต้องสงสัยเข้าไปยังท่าเทียบเรืออเนกประสงค์จังหวัดระนอง เพื่อส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
“ศรชล.เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน”
เหตุด่วน เหตุร้าย ภัยทางทะเล
แจ้งสายด่วน 1465 หรือ 02 888 1465 ตลอด 24 ชั่วโมง