
การหารือระหว่าง ศรชล. กับสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย
ใน 14 มีนาคม 2567 พลเรือเอก วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เลขาธิการ ศรชล./เสนาธิการทหารเรือ พร้อมคณะประกอบด้วย พลเรือโท ขวัญชัย อินกว่าง หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการ ศรชล. พลเรือโท ดนัย สุวรรณหงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์ยุทธการ ศรชล. และ นาวาเอก กิติกรณ์ กาญจนวณิชย์ รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน
ศรชล. ร่วมพบปะหารือกับ Dr. AKIMA Umezawa อัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พร้อมด้วย Ms. MAKI Haruna เลขานุการโท แผนกการเมือง และ Mr. KUBOKI Yoshimiysu เลขานุการตรี (ปฏิบัติหน้าที่ล่ามภาษา ไทย – ญี่ปุ่น) ณ NIPPON TEI โรงแรม INTER CONTINENTAL โดยมีหัวข้อการหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายขอบเขตความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลและการบังคับใช้กฎหมายในทะเลระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น ตามแนวทางการพัฒนาองค์กรของ ศรชล. สำหรับการดำเนินงานด้านความมั่นคงทางทะเลนั้น ทางรัฐบาลญี่ปุ่นให้ความสำคัญต่อการปราบปรามโจรสลัด การก่อการร้ายในทะเล การค้ามนุษย์ การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นพร้อมจะให้การช่วยเหลือในกรณีเกิดภัยพิบัติทางทะเล และการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม
สำหรับการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาด้านความมั่นคงทางทะเลนั้น ทางรัฐบาลประเทศญี่ปุ่นได้จัดให้มีโครงการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า หรือ OFFICIAL SECURITY ASSISTANCE (OSA) มีวัตถุประสงค์เพื่อการเสนอความช่วยเหลือการพัฒนาด้านความมั่นคงต่อประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในภูมิภาคอาเซียน โดยการช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นการมอบอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีและยานพาหนะต่าง ๆ เช่น เรือตรวจการณ์ไร้คนขับ หรือ USV (Unmanned Surface Vehicles) ระบบดาวเทียมสื่อสาร ระบบวิทยุสื่อสาร เป็นต้น ซึ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของหน่วยงานความมั่นคงในทะเลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือในโครงการ OSA นั้น มีเงื่อนไขว่า การนำอุปกรณ์ที่ได้รับมอบไปใช้ในภารกิจของหน่วยนั้นจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และมติสหประชาชาติ รวมถึงไม่นำไปใช้ในกรณีมีข้อพิพาทกับคู่ขัดแย้งระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมาทางรัฐบาลญี่ปุ่นได้ให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าแก่ ประเทศมาเลเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ มาแล้ว
โดยในการหารือนี้ เลขาธิการ ศรชล. ได้มอบของที่ระลึกและกล่าวขอบคุณในความปรารถนาดีต่อการให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาด้านความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมถึงการปฏิบัติการรักษากฎหมายในทะเลของ ศรชล. และเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศญี่ปุ่น อันจะส่งผลทำให้เกิดความร่วมมือด้านอื่น ๆ ในการรักษาความมั่นคงทางทะเลต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตาม ศรชล.จะต้องขอให้มีการศึกษาในรายละเอียดของความต้องการอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ตามความจำเป็นที่จะสามารถช่วยพัฒนาขีดความสามารถของ ศรชล.ได้อย่างแท้จริง รวมถึงจะต้องมีการศึกษาขั้นตอนการปฏิบัติในการรับความช่วยเหลือในโครงการดังกล่าวอย่างรอบคอบ เพื่อเสนอขอความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล. ต่อไป
“ ศรชล. เป็นหน่วยงานหลักในการบูณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล
ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค
เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน”